เทคโนโลยี AI คืออะไร นำไปใช้งานอะไรได้บ้าง บล๊อกนี้มีคำตอบ
หลายปีมานี้ หลายๆ คนมักจะได้ยินชื่อ “AI หรือ Artificial Intelligence” กันค่อนข้างแพร่หลาย
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็อาจจะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาแทรกแซงในหลายๆ อุตสาหกรรมได้ด้วยเช่นกัน
อย่างใน ต่างประเทศ อาจจะเริ่มมีการสร้างหุ่นยนต์ AI ทำหน้าที่ เป็นผู้ประกาศข่าวแทนมนุษย์
ธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นมีการใช้หุ่นยนต์เข้ามาเป็นพนักงานประชาสัมพันธ์ คอยต้อนรับผู้เข้าพัก
หรือระบบตอบข้อความอัตโนมัติ ใน LINE, Facebook หรือ platform e-commerce อื่นๆ
ที่เรามักจะได้พบเจอกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็ การนำ เทคโนโลยี AI ไปประยุกต์ใช้ด้วยนั่นเอง
แต่จริงๆ แล้ว เชื่อว่า หลักการทำงานของ AI หลายๆ คน อาจจะยังไม่เข้าใจอย่างแน่ชัด
ว่า AI เอาไปใช้กับงานประเภทอะไร หรือ ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ใน blog นี้ เรามีคำตอบมาฝากค่ะ
AI คืออะไร
AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence หรือที่ในภาษาไทยเรียกกันว่า “ปัญญาประดิษฐ์”
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ โปรแกรมที่ถูกเขียนและพัฒนาให้มีความฉลาด มีความสามารถคิด และ วิเคราะห์ได้เทียบเท่ากับมันสมองของมนุษย์ นั่นเอง
แล้วเทคโนโลยี AI เอาไปทำอะไรได้บ้าง
นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทแทบจะทุกวงการอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีความสำคัญกับการใช้ชีวิตของเราๆ ในยุค ดิจิตอล แบบนี้เป็นอย่างมาก
ทำให้มนุษย์อย่างเราๆ ทำงาน ใช้ชีวิตได้ง่าย สะดวก ปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการประมวลผลอย่างรวดเร็ว แม่นยำของ AI
ซึ่งมีหลากหลายงาน ที่ได้มีการนำเอา AI เข้าไปใช้ โดยวันนี้จะยกตัวอย่างให้ดูจากหลายๆ แวดวงอุตสาหกรรมเพื่อให้เห็นภาพชัดมากยิ่งขึ้น
ด้านอุตสาหกรรมการผลิต
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อ IoT มาเจอกับ AI นั้น ทำให้เกิดแนวคิดเรื่อง โรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory
โดย AI ได้เข้ามามีส่วนช่วยในด้านการคิด วิเคราะห์ ให้การขั้นตอนการผลิต การจัดการวัตถุดิบ supply chain การขนส่ง ตลอดจนการติดตามคำสั่งซื้อ
ซึ่งเป็นผลดีต่อโรงงานอุตสาหกรรม ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตในระยะยาวได้ดี
ลดปัญหาความซ้ำซ้อนในการทำงาน ข้อมูลก็สามารถนำมาวิเคราะห์ต่อยอดในการพัฒนาหรือปรับรุงโรงงานให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย
ด้านเกษตรกรรม
การเกษตรอัจฉริยะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Smart Farm นั้น ในต่างประเทศ ได้นำเอา AI เข้ามา ช่วยลดการใช้แรงงานมนุษย์ในการทำเกษตร
ไม่ว่าจะเป็นการ การทำรถแทรกเตอร์อัจฉริยะ หรือ หุ่นยนต์ มาทำหน้าที่ในการควบคุมระยะไกล
เช่นการ ให้ปุ๋ย ให้น้ำ และหุ่นยนต์ที่ใช้ AI ในการควบคุมระยะไกล ที่ช่วยทำงานภายในฟาร์มแทน หรือแม้แต่การนำข้อมูล
สภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น สภาพของ น้ำ ดิน สารอาหาร ต่างๆ มาวิเคราะห์ก่อนที่จะเพาะปลูกพืชในรอบๆ ต่อๆ ไปได้
ซึ่งจะทำให้ผลผลิตที่ออกมานั้น มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ด้านการเงิน
เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่เราคุ้นชนกันมากที่สุด เวลาที่เราทำธุรกรรมทางการเงิน
AI นั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ รวมถึงป้องกันการทุจริตด้วย
ตัวอย่างที่พบบ่อย เช่น การ log in เข้า mobile banking ผ่านมือถือ
หรือการอนุมัตสินเชื่อออนไลน์ ที่ได้นำเอา AI และ Machine Learning
มาต่อยอด โดยใช้พฤติกรรมในการวิเคราะห์และพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ให้ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
ทั้งด้านวงเงิน และ ระยะเวลากู้ยืมที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล เป็นต้น
อนาคตต่อไปเราอาจจะเห็น พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร เป็น AI ทำงานแทนมนุษย์ก็เป็นได้
ด้านบันเทิง
เชื่อว่า เดี๋ยวนี้หลายๆ ท่าน หันมาใช้บริการสตรีมมิ่งกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Youtube, Prime Video, Viu, Disney Hotstar และอื่นๆ อีกหลายค่าย
ซึ่งบริการสตรีมมิ่งเหล่านี้ ก็ได้นำเอา AI เข้ามาเป็นเบื้องหลังในการแนะนำหนัง หรือ ซีรีส์ ที่น่าสนใจสำหรับเรา
โดย AI จะทำการเก็บข้อมูล ประวัติการเข้ารับชม ระยะเวลา นักแสดง. และอื่นๆ
และจะคัดสรรสิ่งที่เราสนใจขึ้นมาให้เวลาที่เปิดเข้า Netflix เป็นต้น
ด้านการตลาดเฉพาะตัวบุคคล
ตัวอย่างที่พบบ่อยๆ เช่น เวลาเข้า app e-commerce ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, LAZADA
ปัจจุบันมีการพยายามที่จะทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงไปที่ตัวบุคคล ซึ่ โดยที่ AI นั้นจะทำหน้าที่เก็บข้อมูล เช่น ลูกค้าเข้าไปดูสินค้าประเภทไหนบ่อยๆ
ช่วงเวลาที่เข้าชม สั่งซื้อสินค้าอะไรบ้าง ระบบก็จะจัดส่งอีเมล์เพื่อประชาสัมพันธ์สิ่งที่ลูกค้าสนใจเข้าไปที่ inbox, email ของลูกค้า
เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ด้านการแพทย์
เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยทางด้านการแพทย์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด หรือการวิเคราะห์ วินิจฉัยโรคต่างๆ
อย่างในประเทศไทยเรา ก็จะมี โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ ที่ได้นำเอา เทคโนโลยี AI มาวินิจฉัยโรคในระยะแรกเริ่ม
เช่น โรคมะเร็งเต้านม และ มะเร็งปอด เพื่อช่วยให้การรักษาโรคนั้นสำเร็จสูงขึ้น เมื่อได้ทำการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม ซึ่งจะทำให้อัตราการเสียชีวิตลดน้อยลง
ด้านการเดินทาง
AI ก็เริ่มเข้ามาส่วนช่วยให้การขับขี่บนท้องถนนสะดวกง่ายดาย มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดี มากยิ่งขึ้น
โดย AI จะช่วยประมวลผลจากสิ่งเแวดล้อมในเวลานั้นๆ เพื่อค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุด รวดเร็วที่สุดให้กับผู้ขับขี่
นอกจากนี้ก็ยังสามารถช่วยปรับระบบอื่นๆ ภายในรถยนต์ เช่น ความเย็นของแอร์ องศาผนักพิง กระจกมองข้าง และอื่นๆ
และอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ อย่าง รถยนต์ Tesla นั้นก็ได้นำ AI เข้ามาควบคุมการทำงานของรถยนต์ รวมไปถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์ในรถยนต์ด้วย และยังจะมีระบบ Autopilot
ที่เป็น feature ในการช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ก็อาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% ดังจะเห็นในข่าวที่มีการผิดพลาดอยู่บ้าง
ซึ่งนั่นเป็นอีกจุดหนึ่งที่ AI จะต้องรวบรวมเก็บข้อมุลให้ได้มากที่สุด เพื่อความแม่นยำ ในอนาคนข้างหน้า เราจะได้เห็นระบบ Autopilot ใช้ตามท้องถนน มากยิ่งขึ้นก็เป็นได้
และยังมีอีกหลายๆ อุตสาหกรรม ที่ได้นำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย
ไม่ว่าจะเช่น ระบบขนส่งสินค้า การค้นหาข้อมูล ระบบ smart home และอื่นๆ อีกมากมาย
สรุปได้ว่า เทคโนโลยี AI นี้ นับว่าก็จะยิ่งใกล้ตัวเรามากยิ่งขึ้น เป็นกำลังหลักที่มีความสำคัญในการที่อาจจะมาเปลี่ยนโลก
ของการทำงานของมนุษย์เราอีกมากมาย หลายๆ คน อาจจะมองว่า AI จะเข้ามาแย่งงานมนุษย์มากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน
แต่ทั้งที่จริงแล้ว AI อาจจะทำให้เกิดการสร้างงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก เพียงแต่ ธุรกิจนั้นๆ จะต้องเปลี่ยนมุมมอง ในการลงทุนและให้ความสำคัญ
กับการพัฒนา AI ให้มากยิ่งขึ้น และแน่นอน มนุษย์เราเอง ก็ควรที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องควบคู่กันไป
นอกจากนี้ การเลือกอุปกรณ์ที่นำมาใช้สำหรับงาน AI นั้น ก็มีส่วนสำคัญ
IBCON เป็นตัวแทนจำหน่าย SIEMENS ในกลุ่ม IoT / Industrial Computer
ขอแนะนำ คอมพิวเตอร์เกรดอุตสาหกรรม สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ
หากลูกค้าท่านใด กำลังมองคอมพิวเตอร์เพื่องาน AI .. นี่คืออีกรุ่นที่กำลังมาแรงใน ขณะนี้
SIEMENS SIMATIC IPC520A Tensor Box
Model: 6ES7647-0JB00-0YA2
– 6-core NVIDIA Carmel ARM®v8.2 64-bit CPU (1.43 GHz)
– NVIDIA Jetson Xavier NX GPU (384 GPU cores)
– 8 GB of work memory
– 16 GB of mass storage (eMMC)
– This ensures full support of Nvidia CUDA or Jetpack
ดูคลิปวีดีโอ Unboxing ได้ที่นี่